
แนะนำวิธีเลือกเครื่องดูดควันสำหรับครัวไทย
แนะนำวิธีเลือก เครื่องดูดควันสำหรับครัวไทย ที่ต้องรู้ก่อนเปิดร้าน
การเลือกเครื่องดูดควันที่เหมาะสมกับครัวไทย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการทำอาหารไทยมักมีกลิ่นแรงและควันมาก การมีเครื่องดูดควันที่ดีจะช่วยให้ครัวสะอาด ปลอดกลิ่นและควัน ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้าน และรักษาสุขภาพของคนในครอบครัว ต่อไปนี้คือ 10 ข้อที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อเครื่องดูดควันสำหรับครัวไทย พร้อมตัวอย่างที่ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น

Cooker hood Thai kitchen
เครื่องดูดควันที่เหมาะสมสำหรับครัวไทย
การเลือกเครื่องดูดควันที่เหมาะสมสำหรับครัวไทย ไม่ใช่เรื่องยากหากคุณรู้จักพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งประเภทของเครื่องดูดควัน ปล่องดูดควัน ระบบการทำงาน ประสิทธิภาพการดูดควัน ความเงียบขณะทำงาน ขนาดและดีไซน์ การติดตั้ง ระบบกรองอากาศ การดูแลรักษา ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ และราคาที่เหมาะสม การเลือกเครื่องดูดควันที่ดีจะช่วยให้ครัวของคุณสะอาด ปราศจากกลิ่นและควัน ทำให้การทำอาหารเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน
1. ประเภทของเครื่องดูดควัน
เครื่องดูดควันมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและการใช้งานที่แตกต่างกัน:
- ปล่องดูดควัน (Chimney Hood): มีดีไซน์หรูหรา ติดตั้งบนผนัง เหมาะสำหรับครัวที่มีพื้นที่กว้าง
- ที่ดูดควันแบบรางเลื่อน (Sliding Hood): เหมาะสำหรับครัวที่มีพื้นที่จำกัด สามารถเลื่อนเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน
- เครื่องดูดควันแบบกระโจม (Island Hood): ใช้ติดตั้งบนเพดานเหนือเกาะกลาง เหมาะสำหรับครัวที่มีการทำอาหารตรงกลางห้อง
ตัวอย่าง: สำหรับครัวที่มีพื้นที่กว้าง การเลือกปล่องดูดควันแบบติดผนังจะช่วยให้การดูดควันมีประสิทธิภาพสูงและยังเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งครัวให้ดูหรูหรา
2. ระบบการทำงานเครื่องดูดควัน
เลือกประเภทการทำงานที่เหมาะสมกับครัวของคุณ:
- ระบบหมุนเวียน (Recirculating): ใช้แผ่นกรองคาร์บอนในการกรองกลิ่นและควัน แล้วปล่อยอากาศกลับเข้าไปในครัว เหมาะสำหรับครัวที่ไม่สามารถต่อท่อออกไปนอกบ้านได้
- ระบบต่อท่อ (Ducted): ดูดควันและกลิ่นออกไปนอกบ้านผ่านท่อ มีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องมีการติดตั้งท่อและมีพื้นที่สำหรับการต่อท่อ
ตัวอย่าง: สำหรับครัวที่อยู่ในคอนโดมิเนียม การเลือกเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนจะสะดวกและไม่ต้องกังวลเรื่องการติดตั้งท่อ
3. ประสิทธิภาพการดูดควัน
เลือกเครื่องดูดควันที่มีพลังดูดสูง โดยเฉพาะสำหรับครัวไทยที่มักมีการทำอาหารที่มีควันและกลิ่นมาก
- ค่าพลังดูด: ประมาณ 800-1000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่า
ตัวอย่าง: การเลือกเครื่องดูดควันที่มีพลังดูด 1000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จะช่วยดูดควันจากการผัดและทอดได้อย่างรวดเร็ว
4. ความเงียบขณะทำงานเครื่องดูดควัน
เลือกเครื่องดูดควันที่มีเสียงเบา เพื่อไม่ให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- ค่าเสียง: ประมาณ 40-60 เดซิเบล
ตัวอย่าง: เครื่องดูดควันที่มีระดับเสียง 50 เดซิเบล จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้รู้สึกรำคาญ
5. ขนาดและดีไซน์เครื่องดูดควัน
เลือกขนาดของเครื่องดูดควันที่เหมาะสมกับขนาดครัวและเตา รวมถึงดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์ของครัว
- ขนาด: เลือกขนาดที่กว้างกว่าเตาเล็กน้อย เพื่อให้การดูดควันมีประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่าง: หากเตามีขนาด 60 เซนติเมตร ควรเลือกเครื่องดูดควันที่มีขนาดประมาณ 70-80 เซนติเมตร
6. การติดตั้งเครื่องดูดควัน
การติดตั้งเครื่องดูดควันควรทำอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิต:
- ระยะห่าง: ควรติดตั้งห่างจากเตาประมาณ 65-75 เซนติเมตร เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่าง: การติดตั้งปล่องดูดควันที่ระยะ 70 เซนติเมตรจากเตา จะช่วยให้การดูดควันมีประสิทธิภาพและไม่เกะกะในการทำอาหาร
7. ระบบกรองอากาศเครื่องดูดควัน
เลือกเครื่องดูดควันที่มีระบบกรองอากาศที่ดี:
- ตัวกรองน้ำมัน: ช่วยกรองน้ำมันและคราบไขมันไม่ให้เข้าไปในเครื่อง
- ตัวกรองคาร์บอน: ช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์
ตัวอย่าง: การเลือกเครื่องดูดควันที่มีตัวกรองน้ำมันและตัวกรองคาร์บอน จะช่วยให้ครัวสะอาดและปราศจากกลิ่น
8. การดูแลรักษาเครื่องดูดควัน
เลือกเครื่องดูดควันที่ทำความสะอาดง่ายและมีการดูแลรักษาที่ไม่ซับซ้อน:
- ออโต้คลีน: ฟังก์ชันทำความสะอาดตัวกรองน้ำมันอัตโนมัติ
- แผ่นกรองที่ถอดล้างได้: เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด
ตัวอย่าง: เครื่องดูดควันที่มีฟังก์ชันออโต้คลีน จะช่วยลดภาระในการทำความสะอาดตัวกรองน้ำมัน
9. ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือเครื่องดูดควัน
เลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพและได้รับความนิยม:
- Teka: มีดีไซน์สวยงามและประสิทธิภาพสูง
- Fujioh: ทนทานและมีระบบกรองที่ดี
- MEX: ราคาคุ้มค่าและฟังก์ชันครบครัน
ตัวอย่าง: การเลือกเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ Fujioh ที่มีชื่อเสียงเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ จะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและการใช้งานระยะยาว
10. ราคาที่เหมาะสมเครื่องดูดควัน
พิจารณาราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของคุณ:
- ราคา: เริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันและดีไซน์
ตัวอย่าง: หากคุณมีงบประมาณประมาณ 10,000 บาท การเลือกเครื่องดูดควันที่มีฟังก์ชันครบครันและดีไซน์สวยงามจากยี่ห้อ MEX จะเป็นตัวเลือกที่ดี
เนื่องจากเครื่องดูดควันต้องมีการติดตั้งคล้ายกับเครื่องปรับอากาศ จึงไม่สะดวกที่จะเปลี่ยนตัวใหม่บ่อยๆ เราแนะนำให้เลือกใช้แบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก คุ้นเคยในท้องตลาดแล้ว มีช่างที่มีประสบการณ์ติดตั้งอย่างถูกต้อง เพื่อบริการหลังการขายที่ดี มีอะไหล่เปลี่ยนชิ้นส่วนได้รวดเร็ว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อเรา