kitchens hood สแตนเลส

สแตนเลสในร้านอาหารและอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว

สแตนเลส Stainless Steel ในร้านอาหารและอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว

สแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการร้านอาหารและการทำครัว ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน ไม่เป็นสนิม และดูแลรักษาง่าย วัสดุนี้จึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับการผลิตอุปกรณ์ครัวหลายประเภท ตั้งแต่อ่างล้างจาน โต๊ะเตรียมอาหาร ไปจนถึงหม้อและกระทะ เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทของอุปกรณ์สแตนเลสที่ใช้ในครัว พร้อมแนะนำทริคการเลือกซื้อเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ทริคการเลือกซื้อสแตนเลส (Stainless Steel) ที่นิยมใช้ในร้านอาหาร

สแตนเลสเป็นวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานในครัวร้านอาหาร ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม และดูแลรักษาง่าย การเลือกซื้ออุปกรณ์ครัวสแตนเลสควรพิจารณาคุณภาพของวัสดุ ความเหมาะสมกับการใช้งานจริง และความคุ้มค่าของราคา พร้อมทั้งดูแลรักษาอุปกรณ์ให้ถูกวิธีเพื่อให้อายุการใช้งานยาวนาน การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม จะช่วยให้การประกอบอาหารในครัว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

1. สแตนเลสที่นิยมใช้ในครัวร้านอาหาร

1.1 ประเภทของสแตนเลส

สแตนเลสแบ่งออกเป็นหลายเกรดตามองค์ประกอบของธาตุและคุณสมบัติ โดยเกรดที่นิยมใช้ในครัวเรือนและร้านอาหารคือ 304 และ 316 ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี เกรด 304 มีความทนทานต่อการเกิดสนิมและง่ายต่อการทำความสะอาด ขณะที่เกรด 316 มีธาตุโมลิบดีนัม (Molybdenum) เพิ่มเข้ามา ทำให้ทนทานต่อสารเคมีและเกลือได้ดีขึ้น

1.2 คุณสมบัติพิเศษของสแตนเลส

  • ทนทานต่อการเกิดสนิม: เนื่องจากมีธาตุโครเมียม (Chromium) เป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะสร้างฟิล์มบาง ๆ บนพื้นผิวเพื่อป้องกันการเกิดสนิม
  • ทนทานต่อการสึกกร่อน: โดยเฉพาะเกรด 316 ที่มีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนจากสารเคมีและความร้อนได้ดี
  • ปลอดภัยต่ออาหาร: สแตนเลสไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร จึงปลอดภัยในการประกอบอาหารทุกประเภท

1.3 การใช้งานในครัว

  • โต๊ะเตรียมอาหาร: เพื่อความสะอาดและสะดวกในการทำความสะอาด
  • อ่างล้างจาน: เนื่องจากทนทานต่อความชื้นและน้ำยาล้างจาน
  • เครื่องครัวต่าง ๆ: เช่น หม้อ กระทะ และถาดอบ เนื่องจากทนความร้อนได้สูงและไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร

2. อุปกรณ์ครัวสแตนเลสที่ควรมีในร้านอาหาร

2.1 เครื่องครัวพื้นฐาน

  • หม้อและกระทะสแตนเลส: ควรเลือกใช้หม้อและกระทะที่มีฐานหนา เพื่อให้การกระจายความร้อนสม่ำเสมอ ไม่ทำให้อาหารติดก้นหม้อ
  • ช้อน ตะหลิว และมีด: ควรเลือกที่มีความทนทาน ไม่หักง่าย มีความคมพอดี

2.2 อุปกรณ์เสริม

  • ถาดอบ: ควรเลือกถาดอบที่มีความหนาพอสมควรเพื่อป้องกันการบิดตัวเมื่อเจอความร้อนสูง
  • ชั้นวางสแตนเลส: เพื่อการจัดเก็บที่เป็นระเบียบและทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนิมเมื่อสัมผัสกับน้ำ

2.3 อุปกรณ์ทำความสะอาด

  • ผ้าเช็ดทำความสะอาดสแตนเลส: ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้านุ่มที่ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวสแตนเลส
  • น้ำยาทำความสะอาดสแตนเลส: ใช้น้ำยาที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ หรือเลือกน้ำยาที่ออกแบบมาสำหรับสแตนเลสโดยเฉพาะเพื่อป้องกันการเกิดรอย

3. การดูแลรักษาอุปกรณ์ครัวสแตนเลส

3.1 การทำความสะอาด

  • ทำความสะอาดทันทีหลังการใช้งาน: เพื่อป้องกันการเกิดคราบฝังแน่น และลดการเกิดรอยด่าง
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีกรด: เช่น น้ำส้มสายชู หรือกรดซิตริก ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ออกแบบมาสำหรับสแตนเลส

3.2 การเก็บรักษา

  • เก็บในที่แห้ง: เพื่อป้องกันการเกิดสนิมที่อาจเกิดจากความชื้น
  • ใช้ซองผ้าในการเก็บมีด: เพื่อป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนและการบิ่นของคมมีด

3.3 การป้องกันการเกิดรอย

  • ใช้แผ่นรองสแตนเลส: เมื่อต้องวางของหนัก หรืออุปกรณ์มีคม
  • หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมขูดขีด: เช่น สก๊อตไบร์ทหรือแปรงขนเหล็ก

4. ข้อดีและข้อเสียของสแตนเลสในครัว

4.1 ข้อดี

  • ทนทานต่อการกัดกร่อน: โดยเฉพาะเกรด 316 ที่สามารถทนต่อสารเคมีและเกลือได้ดี
  • ดูแลรักษาง่าย: เพียงทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มและน้ำยาทำความสะอาดทั่วไปก็เพียงพอ
  • ปลอดภัยต่อสุขภาพ: สแตนเลสไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร และไม่มีสารพิษตกค้าง

4.2 ข้อเสีย

  • ราคาแพง: โดยเฉพาะเกรดที่มีคุณภาพสูง เช่น 316 ซึ่งอาจมีราคาสูงกว่าเหล็กหรือวัสดุอื่น ๆ
  • มีน้ำหนักมาก: ซึ่งอาจทำให้การขนย้ายหรือการจัดเก็บอุปกรณ์ขนาดใหญ่เป็นไปได้ยาก

4.3 การเลือกใช้งาน

  • เลือกตามการใช้งานจริง: หากเป็นร้านอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีฐานหนา
  • คำนึงถึงพื้นที่จัดเก็บ: เนื่องจากอุปกรณ์สแตนเลสมีน้ำหนักมาก ควรจัดเก็บในที่ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้

5. ทริคการเลือกซื้ออุปกรณ์ครัวสแตนเลส

5.1 การพิจารณาคุณภาพ

  • ดูที่ความหนาของวัสดุ: อุปกรณ์ที่มีความหนามักจะมีอายุการใช้งานที่นานกว่า และทนทานต่อการใช้งานหนัก
  • ตรวจสอบเกรดของสแตนเลส: ควรเลือกเกรด 304 สำหรับการใช้งานทั่วไป และเกรด 316 สำหรับการใช้งานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือน้ำทะเล

5.2 การคำนึงถึงการใช้งาน

  • เลือกขนาดที่เหมาะสม: สำหรับร้านอาหาร ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับการทำอาหารในปริมาณมาก
  • เลือกตามประเภทอาหารที่ทำ: เช่น หากต้องทำอาหารประเภททอด ควรเลือกกระทะที่มีฐานกว้าง

5.3 การตรวจสอบราคากับความคุ้มค่า

  • เปรียบเทียบราคาและคุณภาพ: ควรพิจารณาราคากับคุณภาพของวัสดุและการออกแบบว่าคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
  • ตรวจสอบการรับประกันสินค้า: เลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีการรับประกัน เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและการบริการหลังการขาย

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ